เมล็ดพริกหอมอุบล100 เมล็ด พริกขี้หนูหอมอุบล ทั้งเผ็ดทั้งหอม (10 แถม 1 คละได้)
วิธีปลูกพริก ปลูกได้ทั้งในสภาพไร่ และสภาพสวนแบบยกร่อง การปลูกสภาพไร่ มักปลูกในที่ดอน อาศัยน้ำฝนและให้น้ำเสริมในช่วงฝนแล้ง จากบ่อน้ำหรือบ่อบาดาล ซึ่งทำให้การผลิตได้ผลไม่สม่ำเสมอ การปลูกในสภาพสวน ส่วนใหญ่ปลูกในบริเวณที่ลุ่มและยกร่องสวน จึงมีน้ำหล่อเลี้ยงได้เกือบตลอดปี ทำให้กำหนดการผลิตได้ในเวลาที่ต้องการ
ส่วนของการเพาะเมล็ดเพื่อปลูก ถ้าต้องการให้มีประสิทธิภาพการงอกของเมล็ด เริ่มต้นด้วยการห่อเมล็ดพันธุ์ในถุงผ้าและแช่ในน้ำทิ้งไว้ 1 คืน ในน้ำควรจะใส่ยาป้องกันรา ลงไปด้วย เมื่อผ่าน 1 คืนไปแล้วให้นำพริกไปล้างผ่านน้ำไหลอย่างน้อย 30 นาที เก็บถุงผ้าไว้ในที่ร่มและชื้นอีก 2-3 วัน เมื่อเมล็ดงอกตุ่มเป็นรากสีขาวเล็กจึงนำไปเพาะลงถุงชำดี ที่มีวัสดุเพาะคือ ดิน : ปุ๋ยคอกเก่า : ขี้เถ้าแกลบ อัตราส่วน 2:1:1 โดยในช่วงนี้จะต้องรดน้ำอย่างสม่ำเสมอวันละ 1-2 ครั้ง เช้าและบ่าย จนต้นกล้าขึ้นใบจริง 3-4 ใบ ค่อยย้ายลงแปลงปลูก
แต่ถ้าไม่ต้องการเพาะเป็นต้นกล้า เมื่อเห็นว่าเมล็ดเริ่มแตกตุ่มราก สามารถนำไปหว่านในแปลงที่เตรียมไว้ได้เช่นกัน
ช่วงปลูกที่ดีคือ ตอนเย็นที่มีแสงอาทิตย์อ่อนเพราะจะทำให้ต้นกล้าตั้งตัวได้เร็วกว่าในช่วงที่มีแสงแดดจ้า
หลังปลูกแล้ว 10-15 วัน ควรใส่ปุ๋ย สูตร 15-15-15 อัตรา 1 ช้อนแกง ด้วยวิธีโรยห่างโคนต้นประมาณ 1 คืบ พร้อมกลบดินและรดน้ำตาม หมั่นกำจัดวัชพืชให้แปลงสะอาดอยู่เสมอ พอพริกเริ่มโตจะใส่ปุ๋ยเคมีสูตร 15-15-15 ด้วยการหว่าน 15 วันต่อ 1 ครั้ง หรือหากไม่ต้องการใช้ปุ๋ยเคมี สามารถใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักแทนได้
การให้น้ำ ควรรดน้ำทุกวัน เพื่อทำให้ต้นพริกแตกกิ่งแขนงดี ต้นหนา ลูกดก ต้นไม่หยุดชะงัก
การเก็บเกี่ยวผลผลิต พริกจะเริ่มออกดอกหลังจากย้ายปลูกแล้ว 60-70 วัน และเก็บเกี่ยวผลผลิตได้เมื่อมีอายุ 90-100 วัน โดยสามารถเก็บได้นานประมาณ 6 เดือน
พริก นับเป็นพืชผักสวนครัวอีกชนิดที่ควรมีและควรปลูกไว้ในบ้าน…
การเตรียมแปลงเพาะกล้าพริกขี้หนูหัวเรือ
ใช้แปลงเพาะที่มีขนาดความกว้าง 1 เมตร ยาว 5-10 เมตร ก่อนที่จะเพาะ เกษตรกรควรจะขุดพลิกดินตากไว้ ประมาณ 2-3 สัปดาห์ หลังจากนั้นย่อยดิน ใส่ปุ๋ยคอกและแกลบเผา อย่างละ 4-5 กิโลกรัม ต่อพื้นที่ 1 ตารางเมตร คลุกเคล้าให้เข้ากันจนร่วนซุย เกลี่ยดินให้เรียบแล้วเพาะเมล็ด ในอัตรา 50 กรัม ต่อพื้นที่ปลูกพริกขี้หนูหัวเรือ 1 ไร่ แนะนำให้โรยเมล็ดพริกเป็นแถวตามความกว้างของแปลง ลึก 0.5 เซนติเมตร แต่ละแถวห่างกัน 10 เซนติเมตร กลบดินบางๆ เสมอผิวดินเดิมแล้วใช้ฟางข้าวคลุมแปลงบางๆ รดน้ำ และถ้าเป็นไปได้ควรจะราดสารป้องกันและกำจัดแมลง เช่น สารเซฟวิน-85 เพื่อป้องกันมดกัดกินเมล็ด เมื่อต้นกล้างอกขึ้นเหนือพื้นดินแล้วให้เก็บฟางข้าวออกให้เหลือน้อยที่สุด เพื่อให้ต้นกล้าเจริญเติบโตดี ยังมีคำแนะนำเพิ่มเติมสำหรับเกษตรกรที่มีการปลูกพริกขี้หนูหัวเรือโดยการย้ายกล้าจากแปลงเพาะไปปลูกในแปลงโดยตรง โดยไม่ย้ายกล้าลงถุงพลาสติก เกษตรกรผู้ปลูกควรจะโรยเมล็ดให้มีระยะห่างเพิ่มขึ้น แต่ละเมล็ดควรจะห่างกัน ประมาณ 0.5 เซนติเมตร เมื่อต้นกล้ามีใบจริง 4-5 ใบ ควรพ่นสารป้องกันและกำจัดแมลงอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง
สภาพดินปลูกพริกควรมีค่าความเป็นกรด-ด่าง ของดิน ระหว่าง 6.0-6.8 (pH = 6.0-6.8) ในดินที่ขาดความอุดมสมบูรณ์ แนะนำให้ปรับปรุงดินก่อนปลูก โดยใช้ปุ๋ยคอก อัตรา 1-2 ตัน ต่อไร่ รองพื้นที่ก่อนปลูก
เป็นพริกขี้หนูที่มีขนาดผลใหญ่ ความยาวประมาณ 7-8 เซนติเมตร มีความเผ็ดปานกลาง กลิ่นหอม เมื่อผลแก่มีสีแดงสด ใช้รับประทานสดและแปรรูปเป็นพริกแห้งได้เป็นอย่างดี จังหวัดที่ปลูกพริกหัวเรือมากที่สุดคือ อุบลราชธานี และศรีสะเกษ พริกหัวเรือเป็นที่นิยมอย่างมากในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งมีพื้นที่ปลูกพริกรวมกันมากกว่า 300000 ไร่